หากเอ่ยนามของนักร้องแร็ปชื่อไม่ค่อยดัง ที่เริ่มมีชื่อเสียงไม่ค่อยโด่งดังเมื่อประมาณซัก
4-5 ปีที่แล้ว หลายท่านในที่นี้คงไม่รู้จัก(ก็ไม่ค่อยดัง
จะรู้จักได้อย่างไร) ผมเองก็ไม่รู้จัก
แต่เผอิญการท่องเน็ตของผมในวันนี้ได้เจอกับชายที่อยู่ในคลิปนี้
หากเอ่ยชื่อของ
Loon ให้กับสาวกดนตรีแรปหลายคนคงจะรู้จักมักคุ้นดี
แต่คนทั่วไปอย่างผมไม่รู้จักเขาเลย
ความน่าสนใจที่ผมอยากนำเสนอให้เพื่อนพ้องน้องพี่ในเฟซนี้ได้รับรู้หาใช่เรื่องราวของดนตรีแรป
แต่มันเป้นเรื่องราวของชีวิตที่เปลี่ยนแปลงจากผู้นำแห่งความศิวิไลซ์
มาสู่ผู้เผยแพร่หลักคำสอนแห่งพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง
ในปี
2008 ขณะที่ชื่อเสียงของ Loon โด่งดังที่สุดในช่วงอาชีพของการเป็นนักร้องของเขา
เพลงของเขาสามารถเข้าไปอยู่ใน Billboard chart และ UK
chart ได้หลายเพลง เขาสังกัดอยู่ในค่ายเพลงของ P. Diddy's Bad Boy
Records. ซึ่งเป็นค่ายเพลงที่ยิ่งใหญ่ในวงการแรป การตระเวณทัวร์เพื่อแสดงคอนเสริต์ทั่วโลกของเขาจึงได้มีขึ้น
เขาเดินทางไปหลายประเทศมากมาย
หนึ่งในประเทศที่มีมุสลิมเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศอย่าง UAE ก็ยังอุตส่าห์เชิญนักร้องคนนี้ไปออกคอนเสริต์ในประเทศ
ใครจะไปเชื่อว่า
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังจะไปเผยแพร่ความงมงายแห่งศิวิไลซ์
กลับต้องมาสยบและจำยอมต่อคำสอนอันเที่ยงแท้ของอิสลาม ณ
ดินแดนที่มุสลิมในประเทศเชิญชวนเขาเข้ามาทำลายความเป็นอิสลาม
และมันก็เกิดขึ้นจริงครับ Loon ได้เข้ารับอิสลาม
ด้วยต้นเหตุที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ วันแรกๆที่เขาไปอยู่ในเอมิเรต
นั้นทุกๆเช้าในขณะที่เขานอนหลับอยู่เขาจะได้ยินเสียงเสียงหนึ่งที่สร้างความสงบในจิตใจของเขาอย่างมาก
เขานั่งนิ่งฟังมันอย่างตั้งใจ และสอบถามผู้คนในละแวกนั้นว่ามันคือเสียงอะไร
ชายคนหนึ่งตอบว่า มันคือเสียง อาซาน
เป็นเสียงที่เรียกร้องให้มุสลิมไปมัสยิดเพื่อทำการละหมาด
หลังจากนั้นเขาจึงขอให้ใครซักคนพาเขาไปที่มัสยิด
ที่นั่นเขาประทับใจในความสงบที่ชีวิตสัมผัสได้
จากบรรยากาศของบรรดาผู้ที่เข้ามาละหมาด
ลูนกลับไปประเทศของตนเองพร้อมด้วยคำถามคำโตเกี่ยวกับอิสลาม
เขาเริ่มศึกษาอิสลามด้วยตนเอง และเข้าไปหาผู้รู้ หลังจกานั้นเขาจึงเข้ารับอิสลาม
กลายเป็นมุสลิมและเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า Amir Junaid Muhadith ความจริงแล้ว Amir
รู้จักศาสนาอิสลามมาตั้งแต่เขาเติบโตในย่าน
Harlem ของเมือง Newyork ซึ่งที่นั่น มีมุสลิมผิวดำมากมาย
แต่เขาไม่รู้สึกสนใจอะไรในอิสลามเลย
ในทัศนะของการมีความสุขตามแบบฉบับของชาวตะวันตก
ผู้ใดที่ครอบครองความร่ำรวย เกียรติยศ และ ชื่อเสียง
ก็ถือว่าเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว Loon
ในวันนั้นมีรายได้ปีละหลายล้านดอลลาส์
เขาสามารถเดินเข้าไปในไนต์คลับแล้วหิ้วสาวๆคนที่เขาชอบใจไปไหนมาไหนได้อย่างสบาย
เขาสามรถซื้อความสนุกที่มีราคาแพงมากมาย(สังเกตุในคลิปที่ผมติดมาให้น่ะครับ เป็น MV
ของ
Loon
ดูแล้วไม่อยากจะเชื่อว่าเปลี่ยนมาได้ขนาดนี้) สิ่งเหล่านี้ Amir
ได้ครอบครองมันหมดแล้ว
แต่เขาคิดว่า เขาไม่เคยเจอกับความสุขที่แท้จริงเลย จนเมื่อเขาได้เข้ารับอิสลาม
การยอมจำนนต่อพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง และการปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาอิสลาม
ทำให้เขาได้พบความสงบสุขในหัวใจของเขาอย่างแท้จริง
หลังเข้ารับอิสลาม
Amir
ได้ยกเลิกทัวร์การแสดงของเขาทั้งหมด แล้วหันมาศึกษาอิสลามอย่างแท้จริง
เขาเดินทางไปอุมเราะฮทันทีหลังเข้ารับอิสลาม และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวในวิถีชีวิตใหม่ของเขา
ปัจจุบัน Amir
ได้รับเชิญเป็นวิทยากรในการบรรยายตามสถานที่ต่างๆทั่วโลก
ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัย หรือลานกลางแจ้ง Amir
ก็ไม่เคยเกี่ยง
การจับไมค์ครั้งใหม่ของ Amir
ย่อมมีความแตกต่างกัน เสียงพูดของเขาไม่มีดนตรีมาขับจังหวะ
ไม่มีการเชิญชวนให้ผู้คนกลับไปสู่ความงมงาย และแสวงหาความสำราญ
แต่เสียงของเขาคือเสียงที่เรียกร้องให้ผู้คนกลับไปสู่พระเจ้าที่แท้จริง
ไม่มีใครซื้อตั๋วมานั่งฟังสิ่งที่เขาพูด
ไม่มีใครเมามายเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ คนมานั่งฟังเพื่อแสวงหาสัจธรรม
ไม่ใช่มาฆ่าเวลาของตนเองเพื่อเสพความสนุกที่ไร้สาระ
ข้อสังเกตุและข้อสงสัยที่ผมอยากจะเชิญชวนพี่น้องทุกท่านมาร่วมกันขบคิดว่า
เหตุใด ในโลกตะวันตก เราพบว่าผู้นำแห่งการดะวะฮ มีมากมายหลายคนเลยทีเดียว
ที่ก่อนหน้านี้เป็นกาฟิรมาก่อน Yusuf Islam ,Bilal Phillips, Yusuf
Esstatte, Khaled Yaseen
คือชื่อของดาอีย์ระดับโลกที่เชิญชวนผู้คนให้หลั่งใหลเข้ามารับอิสลาม
แน่นอนว่าบุคคลเหล่านี้สร้างชื่อให้ชาวโลกรู้จักก่อนที่จะเข้ามารับอิสลาม
พูดง่ายๆคือ ผมจะถามว่า ทำไมโลกตะวันตก คนดังหลายต่อหลายคนเข้ารับอิสลาม และ
หลังจากเข้ารับอิสลามแล้ว ก็กลายมาเป็นแนวหน้าแห่งการดะวะฮ
ในขณะที่โลกตะวันออกนั้น แทบจะนึกชื่อใครไม่ออก(ที่เป็นคนดังระดับโลกน่ะครับ)
บทสรุปสุดท้ายนี้ผมอยากให้พี่น้องอย่าเพิ่งยินดีกับการที่มีกาฟิรระดับโลกมากมายที่เข้ารับอิสลามน่ะครับ
เพราะในขณะเดียวกันนี้เอง ก็มีมุสลิมระดับโลกมากมาย ที่เป็นคนดังแห่งโลกญาฮิลอยะฮ
อย่างเช่น DJ Khaled
ที่เป็นลูกหลานของชาวปาเลสไตน์แต่ไปโตในอเมริกา
(ขอยกตัวอย่างคนเดียวน่ะครับแต่ถ้าสนใจสามารถเข้าไปหาอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้น่ะครับ)http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_American_Muslims
เรื่องของ
Amir
วันนี้สอนให้ผมรู้ว่า บุคคลที่อยู่แนวหน้าแห่งโลกศิวิไลซ์
คือบุคคลที่อยู่แนวหลังของความสูงส่งทางจิตวิญญาณ
เมื่อใดที่คนคนหนึ่ง
สามารถลิ้มรสความสงบสุขที่แท้จริงแล้ว ความสงบจอมปลอมทั้งหลายก็มลายหายไปทันที
วัลลอฮฮุอาลัมครับ
อยากดูเป็นวิดีโอ ที่นี่เลยครับ