ขอความสันติจงมีแด่พี่น้องทุกท่านครับ
ลักษณะของต้นยาสูบและใบของมัน |
ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่อาศัยอยุ่ในโลกเฟซบุค
ทำให้ผมมีเวลาพอสมควรที่จะไปเยี่ยมบ้านของเพื่อนประชาชนคนอื่นๆ
เวลาที่มีพอสมควรนั้นทำให้พบไปพบประชาชนบางคน ถกเถียงกันเรื่องบุหรี่
ว่าตามหลักการศาสนาแล้ว บุหรี่นั้นมัน ฮารอม หรือมักรูฮกันแน่ (ถ้าเถียงกันแบบว่า
ฮารอมหรือฮาลาลก็พอว่าน่ะครับ
แต่แค่เปลี่ยนจากฮารอมเป็นมักรูฮบุญมันก็ไม่ได้อยู่ดี)
ประาชนบางคนก็ยกเอาบุหรี่มาเทียบกับเหล้า แล้วบอกว่ามันฮารอมเหมือนกัน
คนทำให้ประชาชนอีกบางส่วนต้องออกมาชี้แจง
ผมเองความรู้ศาสนาคงมีไม่มากที่จะมาบอกว่าอะไรเป็นอะไรกันแน่
ตกลงมันฮารอมหรือมักรูฮ
แต่ถ้าจะเอาเรื่องที่มันมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเราที่ชัด ผมมีเพียบครับ
ก่อนอื่นต้องขอเล่านิทานเรื่อง
บุหรี่กับมะเร็งปอดก่อนนะครับ
จุดเริ่มต้นของนิทานเรื่องนี้ผมขอเริ่มจากการค้นพบบุหรี่ครั้งแรกของชาวโลกก่อนน่ะครับ
การค้นพบบุหรี่ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2035
คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือชาวอิตาลี ผู้ค้นพบทวีปอเมริกา
เดินเรือไปขึ้นฝั่งที่ซันซัลวาดอร์ ในหมู่เกาะเวสต์อินดีส์
ได้เห็นชนพื้นเมืองนำใบไม้ชนิดหนึ่งมามวนและจุดไฟที่ปลายมวน แล้วดูดควัน
หลังจากนั้น “ยาสูบ” จึงเข้าสู่แผ่นดินยุโรป
คริโตเฟอร์ โคลัมบัส ขณะบุกเบิกทวีปอเมริกา |
จากนั้นปี พ.ศ. 2103
ฌอง นิโกต์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส นำเมล็ดยาสูบไปปารีสและเผยแพร่ทั่วแผ่นดินยุโรป
กระทั่งชาวฮอลันดานำไปเผยแพร่ทั่วเกาะอินโดนีเซียและพระกระจายทั่วทั้งเอเชียในที่สุด
ชื่อของนิโกต์ จึงเป็นที่มาของชื่อสาร “นิโคติน” ที่รู้จักในปัจจุบัน
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า บุหรี่มีการกำเนิดหลังจากยุคสมัยของท่านนบีนานถึง 900
กว่าปี เพราะฉะนั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยว่าจะมีฟัตวา หรือหลักการของศาสนา
หรือบัญญัติของศาสนาที่จะกล่าวถึงบุหรี่ อย่างชัดถ้อยเจน
ต่อให้อิหม่ามทั้งสี่มัซฮับก็คงไม่มีใครเคยเห็นและเอาบุหรี่มาสูบอย่างแน่นอน
การแพร่ขยายของวัฒนธรรมการสูบบุหรี่ที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในปี
พ.ศ. 2325
อุตสาหกรรมบุหรี่หันมาใช้เครื่องจักรแทนการมวนด้วยมือ
บุหรี่จำนวนมหาศาลหลั่งไหลครอบคลุมโลก ภาพยนตร์ Hollywood มีส่วนทำให้การสูบบุหรี่แพร่ระบาดไปทั่วโลก
จากการที่พระเอกและนางเอกเกือบทุกคนสูบบุหรี่ นายโรนัล เรแกน
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ สมัยที่ยังเป็นพระเอกภาพยนตร์ ก็เคยเป็นนายแบบโฆษณาบุหรี่
แน่นอนในยุคสมัยนั้น บุหรี่คือเครื่องบันเทิงใจ ที่สูบแล้วให้ความสดชื่นกับชีวิต
ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และเป็นวัฒณธรรมของชนชั้นสูงเสียด้วย
ผู้อ่านทุกท่านคงนึกไม่ถึงอย่างแน่นอนว่า
การค้นพบว่าบุหรี่เป็นพิษเป็นภัยต่อร่างกายนั้น เพิ่งค้นพบมาเพียง 60
เท่านั้นครับ โดยใน
ปี พ.ศ. 2493
นายแพทย์เซอร์ริชาร์ด โดล จากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
พบว่า “การเกิดมะเร็งปอดมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่”
นายแพทย์ท่านนี้ใช้เวลานานกว่า 7
ปีในการพิสูจน์ให้คนอังกฤษทั้งเกาะเห็นว่าบุหรี่มีพิษภัยจริง
การพิสูจน์ของนายแพย์ท่านนี้เริ่มต้นจากการพบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นอย่างมาก
และส่วนใหญ่มีประวัติสูบบุหรี่อย่างยาวนาน การค้นพบนี้ทำให้เค้าขยายการศึกษาอย่างจริงจังจนกระทั่งปี
พ.ศ. 2505 ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งกรุงลอนดอน
ประกาศเป็นทางการว่า “การสูบบุหรี่ทำให้เกิดมะเร็งปอดและโรคปอดเรื้อรังอื่น
ๆ” การประกาศดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างรุนแรงไปทั่วสหรัฐอเมริกา
เพราะในขณะนั้น มีชาวอเมริกาสูบบุหรี่อยู่ถึง 50
ล้านคน
บริษัทบุหรี่ในสหรัฐอเมริกา
ออกมาปฏิเสธอย่างแข็งขันว่ายังไม่มีหลักฐานว่าการสูบบุหรี่ทำให้เกิดมะเร็งปอดและความสัมพันธ์ที่พบ
ปอดปกติ กับ ปอดมะเร็ง |
ปี พ.ศ. 2507
นายแพทย์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา นายแพทย์ลูเธอร์ แอลเทอร์รี่
และคณะทำงานได้รายงานสรุปว่า การสูบบุหรี่ทำให้เกิดมะเร็งปอดโรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ
และโรคหัวใจ
ข่าวนี้เป็นข่าวที่ช็อกชาวเมริกันและประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก
เพราะตอนนั้นบุหรี่กลายเป้นอุตสาหกรรมขนาดยักษ์ที่มีผลต่อเศรฐกิจของประเทศชาติ
พูดง่ายๆก็คือ เหมือนกับที่เรารู้ว่า
การมีเพศสัมพันธ์ หรือการได้รับเลือดจากผู้ที่มีเชื่อ HIV จะทำให้เราเป็นโรค
HIV แน่นอนฉันใด
การสูบบุหรี่มากมายและยาวนานนั้นย่อมทำให้เราเป็นโรคมะเร็ง ปอด
ถ้าไม่เป็นที่ปอดก็เป็นได้อีกหลายที่ ตั้งแต่กล่องเสียง หลอดอาหาร โรคหัวล้มเหลว
ซึ่งอย่าให้ผมอธิบายเลยว่า ผู้ป่วยมะเร็งที่ผมเห็นๆอยู่ทุกวันนั้นมีสถาพอนาถและทรมานเพียงใด
ถ้าท่านเป็นมะเร็งปอดก็โชคดีหน่อยที่ไม่ต้องเจาะคอแล้วยังคงกินข้าวกินน้ำได้
ตอนตายอาจทรมานนิดนึงที่จะรู้สึกหายใจลำบากตลอดเวลา
แต่ถ้าเป็นมะเร็งกล่องเสียงหรือหลอดอาหาร
ก่อนตายท่านก็อาจจะต้องทานอาหารด้วยการเจาะกระเพาะ แล้วยัดอาหารลงกระเพาะไปเลย
เพราะทางเดินอาหารของท่านถูกทำลายเสียหมดแล้ว กว่าจะตายก็ใช้เวลาซักพัก
ทรมานมากมาย
แน่นอนว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจที่มากมายมหาศาลย่อมได้รับการปกป้อง
จากบรรดาผู้ที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เหล่านั้น
อาจจะรวมถึงการออกฟัตวาในยุคแรกๆที่ออกมาบอกว่าบุหรี่นั้นมักรูฮ สูบได้ไม่บาป
แต่ไม่ได้บุญ เพราะการได้รับข้อมูลที่ไม่แพร่หลายเหมือนในปัจจุบันนี้
ท่านผู้อ่านทั้งหลายก่อนที่ผมจะจบนิทานเรื่องนี้
ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ทุกการรายงานทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่นั้น
ไม่มีซักรายงานเดียวที่อธิบายถึงประโยชน์ของมัน แต่ขณะที่เหล้านั้น
ยังพอมีบ้างที่อธิบายว่ามันช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ
และเมื่อมีการเปรียบเทียบ
เหล้ากับบุหรี่ในทางการแพทย์นั้น
บุหรี่คว้ารางวัลชนะเลิศในการก่อโรคต่างๆมากกว่าเหล้าเยอะแยะเลยครับ สุดท้ายท่านผู้อ่านก็โปรดใช้วิจารณญาณของ่ทานเถิดครับที่อัลลอฮได้กล่าวว่า
“และพวกเจ้าอย่าได้ฆ่าตัวของพวกเจ้า” อันนิซาอ์ : 29 บุหรี่ควรเป็นหนึ่งในสาเหตุของการฆ่าตัวตายหรือเปล่าครับ
แล้วในเมื่อคำสั่งของอัลลอฮชัดเจนขนาดนี้ ถ้ายังสูบกันอีกนี่
เราเรียกกันว่าอะไรหรอครับ
ทดสอบระบบ
ตอบลบ